หลายคนเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาไว้ที่บ้านเพราะอยากออกกำลังกาย แต่เมื่อซื้อมาแล้วกลับใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งก็ล้มเลิกไปไม่ได้ใช้งานต่อ ทำให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่หรือไม่คุ้มค่า โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ วิ่งแล้วรู้สึกเหนื่อยเกินไปหรือไม่สบายตัว มีอาการปวดหรือบาดเจ็บหลังการวิ่งทำให้ไม่ได้วิ่งต่อ วันนี้เราจึงมีเทคนิคการใช้งานอย่างถูกวิธีมาฝากมือใหม่ที่กำลังเริ่มวิ่งเพื่อช่วยให้คุณวิ่งได้อย่างถูกวิธีและไม่ล้มเลิกไปกลางทาง
5 เทคนิคการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าที่มือใหม่ควรรู้!
- วิ่งในท่าที่ถูกต้อง สำหรับมือใหม่ที่หัดวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าควรเริ่มจากการวิ่งท่าทางที่ถูกต้องเพื่อช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ โดยให้วิ่งในท่าหลังตรง ยืดอก และมองตรง ส่วนขาควรวิ่งด้วยก้าวสั้น ๆ และทิ้งน้ำหนักลงที่กลางเท้าเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บที่ส้นเท้าและหัวเข่า วิ่งด้วยท่าลำตัวตรง แขนตั้งฉาก 90 องศาและวิ่งโดยการแกว่งศอกไปด้านหลัง ไม่ควรวิ่งในท่าล็อกแขนและบิดลำตัวเยอะเพราะจะทำให้เหนื่อยง่ายและปวดหลัง
- อย่ามองข้ามการวอร์มอัพและคูลดาวน์ ก่อนวิ่งควรวอร์มอัพประมาณ 10 – 15 นาทีเพื่ออบอุ่นร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการเต้นของหัวใจ โดยการยกเท้าหรือแกว่งแขนอยู่กับที่ หรือวิ่งช้า ๆ ประมาณท่าละ 5 นาที และหลังการวิ่งทุกครั้งควรคูลดาวน์ 5 – 10 นาที เพื่อช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและช่วยลดอาการบาดเจ็บหลังวิ่ง เพราะหากไม่คูลดาวน์หลังวิ่งจะทำให้เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหรือมีอาการปวดกล้ามเนื้อได้ง่าย
- ไม่ควรเริ่มวิ่งด้วยความเร็วที่สูงจนเกินไป เพราะการเริ่มวิ่งด้วยความเร็วสูงจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว อุณหภูมิในร่างกายสูงและเสี่ยงต่ออันตรายได้ ควรเริ่มจากการวิ่งเบา ๆ ด้วยความเร็วประมาณ 4 – 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและค่อย ๆ ปรับความเร็วขึ้นครั้งละประมาณ 2 – 3 ระดับ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ทัน
- ไม่ควรเล่นมือถือหรือก้มหน้าวิ่ง เพราะการก้มหน้าเป็นการวิ่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้มีอาการปวดหลังและปวดคอหลังวิ่ง เมื่อมีอาการปวดจะทำให้รู้สึกไม่อยากวิ่งต่อ
- จิบน้ำตลอดการวิ่ง หลายคนเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายไม่ควรดื่มน้ำ แต่ความจริงแล้วควรจิบน้ำเรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำขณะออกกำลังกาย
การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นการออกกำลังกายที่ดี หากวิ่งอย่างถูกวิธีก็จะช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและทำให้รู้สึกอยากวิ่งอยู่เสมอ ควรวิ่งครั้งละ 30 – 40 นาที เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นและไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป